Breaking News
recent

ต้นสน

                                          

ต้นสน


ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pinus kesiya Royle ex Gordon 

ชื่อวงศ์ : สนเขา PINACEAE 

ชื่อสกุลไม้ : สน Pinus L.

ชื่อสามัญ : Kesiya pine, Khasya pine



ชื่อพื้นเมือง : เกี๊ยะเปลือกแดง (ภาคเหนือ) , เกี๊ยะเปลือกบาง (เชียงใหม่) , จ๋วง (ภาคเหนือ และภาค 


ตะวันออกเฉียงเหนือ), เชียงบั้ง (กะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน), แปก (ฉานแม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์),


สนเขา (ภาคกลาง) 


นิเวศวิทยาและการกระจายพันธุ์ 

ในประเทศไทย >> พบขึ้นเป็นหมู่ ๆ ตามป่าสนเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเล 800 - 1,600 ม. ในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 

ในต่างประเทศ >> พบที่ พม่า อินโด-ไชน่า มาเลเซีย ฟิลิปปินส์

สถานภาพ >> ประเภท ก. ไม้หวงห้ามธรรมดา ชันสน น้ำมันยางสน เป็นของป่าหวงห้าม


ลักษณะทั่วไป 

ต้นไม้ เป็นไม้ยืนต้น ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 10 - 30 ม. ไม่ผลัดใบ ลำต้นเปลาตรง เรือนยอด ที่สมบูรณ์ จะเป็นพุ่มกลม กิ่งที่แยกจากลำต้นมักบิดคดงอเป็นข้อศอก กิ่งอ่อนมีรอยตาใบทั่วไป เปลือกนอก สีน้ำตาลอมชมพูอ่อน ล่อนเป็นสะเก็ดรูปตาข่ายเปลือกในสีแดง มักมียางสีเหลืองอ่อนใสๆ ซึมออกมาตามรอยแตก กระพี้สีขาวถึงขาวแกมเหลืองหรือเหลืองอ่อน มียางซึมอยู่ทั่วไป กระพี้กับแก่นแยกจากกันเห็นได้ชัด




  



ใบ ใบเล็กยาวเรียว เป็นรูปเข็ม ไม่แข็ง ออกเป็นกระจุกละ 3 ใบ ยาว 10 - 25 ซม. หลังใบเป็นร่องแบบรางน้ำตลอด ท้องใบโค้งเป็นรูปเกือกม้า ขอบหยักถี่ละเอียด ปลายแหลม โคนอัดแน่นอยู่ในกระเปราะ ใบมักออกตามปลายกิ่ง เป็นช่อใหญ่ ๆ



ดอก ออกเป็นช่อ แยกเพศ อยู่บนต้นเดียวกัน ช่อดอกตัวผู้สีเหลือง แบบหางกระรอก ติดเป็นกลุ่มบริเวณใกล้ ๆ ปลายกิ่ง แต่ละช่อยาว 2 - 4 ซม. ช่อดอกตัวเมีย ออกเดี่ยว ๆ หรืออย่างมากไม่เกิน 3 ดอก ออกตามกิ่ง เมื่อผสมพันธุ์แล้ว จะกลายเป็นผล







ผล ออกอ่อนมีลักษณะกลม ออกรวมกันเป็นกลุ่ม เรียกว่า cone รูปไข่สีน้ำตาล กว้างประมาณ 5 ซม. ยาวประมาณ 8 ซม. เมล็ดเล็กมีปีก ผลแก่ เมื่อแก่จัดจะแตกแยกออกเป็นกลีบแข็ง ๆ โคนกลีบยังคงติดอยู่กับแกนกลางของผลและมีลักษณะเป็นรูปกรวยคว่ำ เมล็ดรูปรี ๆ มีครีบบาง ๆ สีขาว มีเมล็ดเป็นจำนวนมาก ขนาดเล้ก ก้านผลยาว 0.5 ซม.


ระยะเวลาในการออกดอกและเป็นผล ออกดอกระหว่างเดือน พฤศจิกายน - มกราคม และเป็นผลระหว่างเดือน ธันวาคม - มีนาคม

การขยายพันธุ์ นิยมเพาะกล้าจากเมล็ด และนิยมใช้ดินใต้ต้นสนสามใบมาผสมดินเพาะชำหรือปลูก เพราะว่ามีจุลินทรีย์ชื่อ ไมคอไรซ่า ช่วยในการหาอาหารให้กันและกัน จึงจะเจริญเติบโตได้ดี การปลูกสนสามใบต่างถิ่นกำเนิดจึงมักประสบปัญหาการเจริญเติบโตช้า และโดยธรรมชาติสืบพันธุ์ได้ดี หากไม่มีไฟป่ารุนแรงมากนัก


พบเจอที่ หลังอาคาร 3


ไม่มีความคิดเห็น:

รูปภาพธีมโดย Xaviarnau. ขับเคลื่อนโดย Blogger.